ถึงแม้จะอยู่แสนไกล ก็ขอให้ได้ไปสักการะที่วัดเซ็นโกจิสักครั้ง

@Zenkoji

วัดเซ็นโกจิมีประวัติศาสตร์ยาวนานประมาณ 1,400 ปี นับตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง มี พระอมิตาพุทธะสามพระองค์เป็นพระประธานของวัด กล่าวกันว่าเป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เป็นวัดของปุถุชนทั่วไปที่ใครๆ ก็สามารถมาเคารพสักการะได้โดยไม่มีการแบ่งแยกนิกาย มีผู้มาสักการะจากทั้งในประเทศญี่ปุ่นและจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ก่อนอื่น เราไปเที่ยวชมและสักการะพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์ที่วัดเซ็นโกจิกันเลย

 

Temple Grounds Map

 

แยกไฟแดงวัดเซ็นโกจิ

เมื่อข้ามแยกสัญญาณไฟ “วัดเซ็นโกจิ” การสักการะวัดเซ็นโกจิ ก็จะเริ่มต้นขึ้น หากมองให้ดีจะเห็นว่าตัวหนังสือ 3 ตัวของ วัดเซ็นโกจิ จะมีรูปทรงที่ประหลาดอยู่เล็กน้อย…..

 

ไดฮงกัน (ที่พักสำหรับแม่ชีของนิกายโจโดะ)

ไดฮงกันจะอยู่ฝั่งซ้ายมือเมื่อเข้าไปในบริเวณวัด ตั้งแต่เริ่มก่อสร้างเป็นต้นมา มีแม่ชีดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส ผู้ที่จะดำรงตำแหน่งได้จะเป็นผู้ที่สืบเชื้อสายจากเชื้อพระวงศ์ ภายในมีเครื่องรางที่ใช้มือกำได้แน่นเรียกว่า “พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ที่กำได้” ซึ่งเป็นที่นิยมอยู่ด้วย

 

บ้านพักของนักบวช (ชูคุโบ)

สิ่งปลูกสร้างที่ตั้งเรียงรายอยู่ภายในบริเวณวัดเซ็นโกจิก็คือ บ้านพักของนักบวช ที่วัดเซ็นโกจิ จะมีบ้านพักของนักบวชทั้งหมด 39 แห่งเป็นของนิกายเท็นได 25 แห่ง นิกายโจโดะ 14 แห่ง นอกจากบ้านพักของนักบวชจะมีสถานที่ที่สามารถรับประทานอาหารมังสวิรัติได้แล้ว ยังสามารถลองคัดบทพระสูตร และฝึกทำลูกประคำได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่จะได้รับตราประทับ (โกะชูอิน) อีกด้วย

 

ประตูนิโอมง

เมื่อหันหน้าเข้าหาประตูนิโอมง ฝั่งซ้ายมือจะมี “รูปแกะสลักเทพทวารบาลอะ” ส่วนด้านขวามือเป็น “รูปแกะสลักเทพทวารบาลอุน” ตั้งอยู่ นอกจากนี้ยังมีเทพผู้คุ้มครองพระรัตนตรัยและมหากาลสามหน้าอยู่ด้านหลังของรูปแกะสลัก ซึ่งเป็นผลงานของโคอุน ทาคามูระ (บิดาของโคทาโร่ ทาคามูระ) และอุนไค โยเนะฮาร่า กล่าวกันว่าเหตุผลที่ทำให้เทพทวารบาลอะและเทพทวารบาลอุนตั้งสลับที่กันก็เนื่องมาจาก ในช่วงเช้าของฤดูหนาว “รูปแกะสลักเทพทวารบาลอะ” ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นของทุกอย่าง จะได้โดนแสงอาทิตย์ยามเช้า และ “รูปแกะสลักเทพทวารบาลอุน” ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์แห่งการสิ้นสุดของทุกอย่างจะได้โดนแสงอาทิตย์ในยามเย็น

 

 

ถนนนากะมิเซ

ผ่านประตูนิโอมงเข้าสู่ถนนนากะมิเซ จะมีร้านขายของฝาก ร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์และร้านขายอาหารและเครื่องดื่มตั้งเรียงรายอยู่เป็นจำนวนมาก แวะเติมพลังด้วยซอฟท์ครีมรสมิโซะและโอะยากิกันก่อน

กล่าวกันว่าแผ่นทางเดินหินที่ยาวต่อเนื่องตั้งแต่ทางเข้าภายในบริเวณวัดไปจนถึงประตูซันมง มีจำนวน ถึง 7,777 แผ่น และยังมีตำนานอันแสนเศร้าเกี่ยวกับทางเดินหินหลงเหลืออยู่ด้วย

 

พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์สำหรับขอพรให้อายุยืน

ส่วนพระพุทธรูปนูเรโฮโตเกนั้น กล่าวกันว่า เมื่อเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ในเอโดะได้ช่วยปลอบโยนดวงวิญญาณของหญิงสาวโอชิชิ เป็นลูกสาวของร้านขายผักที่เป็นต้นเพลิง และถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “พระพุทธรูปนูเรโฮโตเกแห่งดวงวิญญาณของหญิงสาวโอชิชิ ลูกสาวของร้านขายผัก”

 

วิหารวัดเซซอน

วิหารวัดเซซอน เป็นวัดที่มีพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์ “พระพุทธรูปปางนิพพาน” เป็นพระประธาน (สมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ) ซึ่งพระพุทธรูปองค์นี้มีขนาดใหญ่เท่าคนเพียงแห่งเดียวในญี่ปุ่นประดิษฐานอยู่ เชื่อกันว่าพระศากยมุณีจะช่วยให้สมหวังในโลกปัจจุบัน ส่วนองค์พระพุทธรูปอมิตาพุทธะ (พระอะมิดาเนียวไร) ในวิหารหลักของวัดเซ็นโกจิเป็นพระพุทธรูปที่จะช่วยให้สมหวังในแดนสุขาวดี  เราไปขอพรให้มีความสุขจากพระพุทธรูปทั้งสององค์กันเลย

 

สะพานโกมะกาเอะริ
สะพานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ปากทางไปสู่ประตูซันมงจากถนนนากะมิเซ มีตำนานกล่าวกันว่า เมื่อครั้งที่มินาโมโตะ โนะ โยริโมเดินทางมาแสวงบุญที่วัดเซ็นโกจิ เกือกม้าของเขาได้เข้าไปติดในร่อง จึงทำให้ต้องดึงม้า (โกมะ) กลับไป

 

พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์หกองค์พระพุทธรูปนูเรโฮโตเก

@Zenkoji

พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์หกองค์คือพระโพธิสัตว์ที่คอยช่วยเหลือมนุษย์ในภพภูมิต่างๆ ทั้ง 6 ภพได้แก่ นรก เปรต สัตว์ อสูร มนุษย์และสวรรค์

ส่วนพระพุทธรูปนูเรโฮโตเกนั้น กล่าวกันว่า เมื่อเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ในเอโดะได้ช่วยปลอบโยนดวงวิญญาณของหญิงสาวโอชิชิ เจ้าของร้านขายผักที่เป็นต้นเพลิง และถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “พระพุทธรูปนูเรโฮโตเกแห่งดวงวิญญาณของหญิงสาวโอชิชิ เจ้าของร้านขายผัก”

 

ไดคันจิน (ที่พักสำหรับแม่ชีของนิกายเท็นได)

ไดคันจินตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์หกองค์ เจ้าอาวาสของไดคันจินถูกเรียกว่าโอะคันชูซามะ จะดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเซ็นโกจิควบคู่ไปกับตำแหน่งพระชั้นผู้ใหญ่ของไดฮงกัน
 

บ่อน้ำสำหรับล้างมือ

@Zenkoji

เมื่อผ่านประตูซันมงเข้ามา ในที่สุดก็จะถึงวิหารหลักแล้ว ก่อนที่จะไหว้พระที่วิหารหลัก จะต้องชำระล้างทำความสะอาดที่บ่อน้ำสำหรับล้างมือก่อน ล้างมือซ้ายด้วยน้ำจากกระบวยตักน้ำ จากนั้นใช้น้ำราดที่มือข้างขวาแล้วล้างปากด้วยน้ำที่รองด้วยมือข้างซ้าย จากนั้นล้างมือข้างซ้ายอีกครั้งหนึ่งแล้วจึงตั้งกระบวยขึ้นและทำความสะอาดกระบวยด้วยน้ำที่เหลือ

 

ประตูซันมง

@Zenkoji

ประตูซันมงสร้างขึ้นในปี 1750 กล่าวกันว่าป้าย “วัดเซ็นโกจิที่อยู่ด้านบน เป็น ป้ายตัวอักษรรูปตัวนกในตัวหนังสือ 3 ตัวจะมีนกซ่อนอยู่ 5 ตัว

ท่านมองเห็นหน้าตาของสัตว์ที่มีความผูกพันอย่างลึกซึ้งกับวัดเซ็นโกจิที่ตัวอักษร “เซ็น” หรือไม่ ? สามารถขึ้นไปสักการะด้านบนก็ได้ ทิวทัศน์หน้าประตูเมื่อมองจากตรงนี้ก็จะให้ความรู้สึกที่ต่างออกไป

 

กระถางธูปขนาดใหญ่

เชื่อกันว่าเมื่อโบกให้ควันธูปจากกระถางธูปขนาดใหญ่มาใส่ตัวจะช่วยให้แคล้วคลาดจากภัย ไม่เจ็บไม่ไข้ และหายจากอาการเจ็บไข้ได้ป่วย ขอแนะนำให้ท่านลองชำระล้างร่างกายให้บริสุทธิ์ก่อนที่จะเข้าไปไหว้พระในวิหารหลัก

 

วิหารหลักวัดเซ็นโกจิ

ถ้าเช่นนั้น เราไปไหว้พระที่วิหารหลักวัดเซ็นโกจิซึ่งเป็นสมบัติประจำชาติกันเลย

 

พระปิณโฑลภารทวาชเถระ (พระบินซรุ)

@Zenkoji

สิ่งที่ผู้มาสักการะจำนวนมากกำลังสัมผัสอยู่ตรงหน้าทางเข้าวิหารหลักก็คือ พระบินซุรุ เชื่อกันว่าหากลูบคลำส่วนใดของพระบินซุรุในบริเวณเดียวกับที่ตนเองเจ็บป่วย อาการเจ็บป่วยก็จะหายไป สังเกตุได้ว่าบริเวณที่ผู้มาสักการะลูบคลำเป็นจำนวนมากจะเป็นเงา ที่นี่ยังได้รับคัดเลือกจากมิชลินให้อยู่ในระดับ 3 ดาวด้วย

 

เขตไนจินภายในวิหารองค์พระโพธิสัตว์ทั้ง 25 องค์


                                                                                                    @Zenkoji 

เขตไนจิน (เขตด้านใน) ที่อยู่ภายในวิหารซึ่งมีความกว้างประมาณ 150 เสื่อตาตามิ (ประมาณ 274 ตารางเมตร) เป็นเขตที่สามารถสักการะพระประธานอันศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างใกล้ชิด องค์พระโพธิสัตว์ทั้ง 25 องค์ที่อยู่ตรงคานขวางที่กั้นระหว่างด้านในสุด (เขตไนไนจิน) ของวิหารหลักซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปได้แสดงให้เห็นถึงเรื่องราวของเหล่าองค์พระโพธิสัตว์ที่ขี่เมฆมารับผู้มีจิตศรัทธาไปสู่สรวงสวรรค์

 

เดินวนในทางเดินมืด (โอะไคดันเมกุริ)

                          

@Zenkoji

เมื่อมาที่วัดเซ็นโกจิแล้ว สิ่งที่อยากให้ท่านลองสัมผัสประสบการณ์ให้ได้ก็คือการเดินวนในทางเดินมืด เมื่อลงบันไดตรงทางเข้าของเขตไนไนจินแล้วท่านจะได้พบกับทางเดินที่มืดสนิทต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เมื่อใช้มือคลำหาผนังแล้วเดินต่อไปเรื่อยๆ จะได้พบกับ “กุญแจแห่งสรวงสวรรค์” ที่อยู่ใต้พระประธานเชื่อกันว่าหากได้สัมผัสกุญแจดังกล่าวจะมีวาสนาต่อพระประธาน ซึ่งเป็นเหมือนคำมั่นสัญญาต่อแดนสุขาวดี 

 

จุดรับของที่ระลึก (จูโยฮินโช)

เมื่อเดินวนรอบตัววิหารหลักแล้ว เชิญรับเครื่องรางและลูกประคำได้ที่จุดรับของที่ระลึก

 

การทำวัตรเช้าการให้พรด้วยลูกประคำ

@Zenkoji

@Zenkoji

ที่วิหารหลักจะมีพิธีทำวัตรเช้าในทุกเช้า เจ้าอาวาสวัดเซ็นโกจิสององค์ซึ่งทำหน้าที่เป็นพระผู้ทำพิธีจะนำลูกประคำแตะที่ศรีษะและให้พรแก่ผู้ที่มาสักการะที่คุกเข่ารอระหว่างทางเดินและทางเข้าสู่วัดในขณะที่ท่านเดินไปกลับระหว่างวิหารหลัก  การให้พรดังกล่าวก็คือ “การให้พรด้วยลูกประคำ” เชิญท่านสัมผัสประสบการณ์ที่เป็นกิจวัตรยามเช้าของวัดเซ็นโกจิ ที่กล่าวกันว่ามีความเป็นวัดเซ็นโกจิมากที่สุด

 

สุสานบรรจุวิญญาณทหารที่จงรักภักดีต่อประเทศญี่ปุ่นหอจดหมายเหตุวัดเซ็นโกจิ
ด้านในทางทิศเหนือของวิหารหลักก็คือ สุสานบรรจุวิญญาณทหารที่จงรักภักดีต่อประเทศญี่ปุ่นและหอจดหมายเหตุวัดเซ็นโกจิ เป็นที่เก็บดวงวิญญาณทหารที่เสียชีวิตในสงครามตั้งแต่สงครามโบะชิงจนถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 ภายในจัดแสดงสมบัติที่มีค่าของวัดเซ็นโกจิ เช่น ภาพมันดาลาทรายซึ่งองค์ดาไลลามะองค์ที่ 14 ได้มาประกอบพิธีเบิกเนตร แบบของรูปหล่อเทพทวารบาลนิโอ เทพผู้คุ้มครองพระรัตนตรัย และมหากาลสามหน้า เป็นต้น

 

หอไตร

          

 @Zenkoji

หอไตร ถูกสร้างขึ้นในปี 1759 เป็นที่เก็บรักษา “พระไตรปิฎก” ซึ่งเป็นที่เก็บคัมภีร์ที่บันทึกคำสอนของพระโคตมพุทธเจ้า ในวิหารจะมีตู้พระไตรปิฎกทรงแปดเหลี่ยมทำจากไม้ กล่าวกันว่าเมื่อดันให้ไม้ค้ำหมุนไปรอบๆ จะได้พรเท่ากับอ่าน “พระไตรปิฎก” ทั้งหมด ปัจจุบันอยู่ในช่วงการบูรณะปฏิสังขรณ์จึงไม่สามารถชมได้

 

สถานที่เก็บเสาประกอบพิธีกรรม (เอะโคบาชิร่า) รุ่นก่อนๆ
เสาไม้ที่ตั้งเรียงรายด้านหลังของหอไตร เป็นเสาไม้ที่เคยใช้ประกอบงานอัญเชิญพระประธาน (โกะไคโจ) รุ่นก่อนๆ ซึ่งเคยตั้งหน้าวิหารหลักเมื่อครั้งที่มีงานอัญเชิญพระประธานของวัดเซ็นโกจิ ที่จัดขึ้นทุกๆ ปีที่ 7 (ทุกๆ 6 ปี) เสาเก่าแก่จะสึกกร่อนและมีขนาดสั้นลง

 

     รูปพระอมิตาภพุทธะ

ที่แกะสลักด้วยเล็บ

  

@Zenkoji

ที่ฝั่งตรงข้ามกับสถานที่เก็บเสาเอะโคบาชิร่ารุ่นก่อนๆ จะมีรูปพระอมิตาภพุทธะ ที่แกะสลักขึ้นจากหิน มีตำนานเล่าต่อกันมาว่าพระนักบวชนามว่าท่านชินรัน ได้ใช้เล็บแกะสลัก และกล่าวกันว่ามีผลช่วยรักษาอาการป่วยเกี่ยวกับดวงตามาตั้งแต่สมัยก่อน

 

หอระฆัง



หอระฆังอยู่ด้านขวามือหน้าวิหารหลัก ระฆังถูกหล่อขึ้นในปี 1667 ใช้ตีเพื่อแจ้งเวลาทุกชั่วโมงตั้งแต่ 10 โมงเช้าจนถึง 4 โมงเย็นของทุกวัน

 

สวนฝั่งทิศตะวันออก

พักสักครู่ที่สวนฝั่งทิศตะวันออกซึ่งอยู่ทางฝั่งทิศตะวันออกของวิหารหลักกันก่อน

 

งานเซทสึบุน (งานวันเปลี่ยนฤดู)

ที่วัดเซ็นโกจิจะมีการจัดงานเซทสึบุนในวันที่ 3 เดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ชายและหญิงนำโชค รวมทั้งแขกรับเชิญพิเศษกว่า 400 คนจะออกมายืนที่ระเบียงของวิหารหลัก หันเข้าหาผู้ที่มาสักการะจำนวนมากแล้วโปรยถั่วลงมาพร้อมกัน

 

วันจัดงานเทศกาลโอบ้งวัดเซ็นโกจิ

©zenkoji​

ในงานเทศกาลโอบ้งในเดือนสิงหาคม ภายในบริเวณวัดเซ็นโกจิจะมีการจัดงานเทศกาลฤดูร้อนโดยมีการรำบงโอโดริเป็นหลัก การได้ลองเข้าไปเต้นรำในวงของรำบงโอโดริตอนหัวค่ำท่ามกลางบรรยากาศที่เย็นสบาย หวนชวนให้รำลึกถึงสมัยก่อนก็สนุกสนานไม่น้อย

 

ตลาดบินซุรุอิจิ วัดเซ็นโกจิ

                   

                  

วันเสาร์ที่ 2 ของทุกเดือนตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนพฤศจิกายน ภายในบริเวณวัดเซ็นโกจิจะมีการจัดงานขายสินค้าตลาดบินซุรุอิจิขึ้น จะมีของแฮนเมดชนิดต่างๆ มากมายหลายชนิดวางเรียงราย ตั้งแต่ผักผลไม้ของเกษตรกรในท้องถิ่น ผลงานของช่างฝีมือ ไปจนถึงขนมที่ทำขึ้นโดยเชฟทำของหวาน หากค่อยๆ เลือกชมไปเรื่อยๆ อาจจะได้พบกับสิ่งของสุดแสนวิเศษก็ได้
 

สำหรับท่านที่ต้องการทราบรายละเอียดของวัดเซ็นโกจิเพิ่มเติมเชิญด้านนี้
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ  http://www.zenkoji.jp/
บทความพิเศษพิธีกรรมอันยิ่งใหญ่ “งานอัญเชิญพระประธาน (โกะไคโจ)” ซึ่งจัดขึ้น 1 ครั้งในทุกๆ ปีที่ 7 (ทุกๆ 6 ปี) เชิญด้านนี้
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ   http://www.gokaicho.com/